เชื้อเพลิงแข็งอัดเม็ดจากผลพลอยได้โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลโดยไม่ใช้ตัวประสาน

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ศึกษาการอัดเม็ดกากหม้อกรองโคลน ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิตน้ำตาลให้เป็นเชื้อเพลิงแข็ง โดยศึกษาผลของความดันในการอัด เส้นผ่านศูนย์กลางของเม็ด และอุณหภูมิและเวลาในการทอริแฟคชั่น พบว่า การอัดเม็ดทำให้ได้เชื้อเพลิงที่มีค่าความร้อนสูงกว่าตอนที่ไม่ได้อัดเม็ด โดยเม็ดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร สูง 1 เซนติเมตร ต้องใช้ความดันในการอัดต่ำที่สุดเท่ากับ 30 บาร์ จึงจะได้ลักษณะของเม็ดที่แน่น ไม่แตกหัก ส่วนเม็ดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เซนติเมตร ความสูงของเม็ดเท่ากัน ต้องใช้ความดันในการอัดต่ำที่สุด 40 บาร์ หากพิจารณาเม็ดที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเม็ดเท่ากัน เมื่อเพิ่มความดันในการอัดจะได้เชื้อเพลิงอัดเม็ดที่มีค่าความร้อน ค่าความหนาแน่น ค่าความชื้น และปริมาณเถ้า เพิ่มสูงขึ้น เมื่อนำตัวอย่างอัดเม็ดไปทำการทอริแฟคชั่นที่อุณหภูมิ 250 และ 300 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 ถึง 120 นาที พบว่า ตัวอย่างที่ผ่านการทอริแฟคชั่นมีค่าความร้อนสูงขึ้น (21,689–22,642 kJ/kg) กว่าตอนที่ไม่ได้ทำทอริแฟคชั่น (13,954 kJ/kg) โดยมีค่าความหนาแน่นของเม็ดลดต่ำลงจาก 0.72 g/cm³ มาเป็น 0.48–0.89 g/cm³ การเพิ่มอุณหภูมิและเวลาในการทอริแฟคชั่น ทำให้ค่าความร้อนของเม็ดตัวอย่างมีค่าเพิ่มสูงขึ้น ส่วนค่าความหนาแน่นของเม็ดมีค่าลดต่ำลง