การวิเคราะห์รอยแตกของกระจกลามิเนตที่เกิดจากกระสุนปืนขนาด .22 Long Rifle ในมุมยิงที่ต่างกัน

ผู้แต่ง

  • มาศฤดี หนูแป้น สาขาวิชานิติวิทยาศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
  • วรดา สโมสรสุข ภาควิชาเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
  • เสกสรรค์ สโมสรสุข ภาควิชาเทคนิคการแพทย์ คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
  • ธีรนันต์ นคินทร์พงษ์ กลุ่มงานตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 จังหวัดยะลา ประเทศไทย

คำสำคัญ:

กระจกลามิเนต, กระสุนปืนขนาด .22 Long Rifle, รอยแตก, รอยแฉลบ, มุมยิง

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ได้วิเคราะห์ลักษณะรอยแตกบนกระจกลามิเนต พลังงานจลน์ของกระสุนปืนที่กระทำกับกระจกลามิเนต และลักษณะการเสียสภาพของกระสุนปืนหลังปะทะกระจกลามิเนต โดยจำลองยิงกระจกลามิเนตที่มีความหนา 6 มิลลิเมตร และเคลือบด้วยฟิลม์ติดกระจกหนา 2 มิลลิเมตร ด้วยกระสุนปืนขนาด .22 Long Rifle ที่มีความเร็วเทียบเท่ากับการยิงห่างจากกระจกเป้าหมายในระยะยิงช่วง 550 ถึง 650 หลา จากมุมยิงที่แตกต่างกัน ได้แก่ มุมยิง 90, 60, 45 และ 30 องศา จากผลการวิจัย พบว่า เมื่อยิงที่มุม 90 องศา จะพบรูกระสุนปืนทางเข้าปรากฏบนกระจกลามิเนต พบรอยแตกแบบ concentric fracture และรอยแตกแบบ radial fracture โดยที่กระจกไม่ทะลุ ส่วนที่มุมยิง 60, 45 และ 30 องศา รอยกระสุนปืนที่ปรากฏบนกระจกลามิเนตมีเพียงรอยแฉลบ ไม่พบรอยแตก ทั้งนี้ สามารถนำอัตราส่วนความกว้างต่อความยาวของรูกระสุนปืนทางเข้าและของรอยแฉลบมาคำนวณกลับหามุมยิงได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ลักษณะการเสียสภาพของกระสุนปืนหลังปะทะกระจกลามิเนตที่มุมยิง 90, 60, 45 และ 30 องศา เพื่อหามุมยิงโดยใช้กล้องจุลทรรศน์เปรียบเทียบ ซึ่งแม่นยำกว่าการคำนวณมุมยิงจากขนาดของรูกระสุนปืนทางเข้า ขนาดรอยแตกแบบ concentric fracture และขนาดรอยแฉลบ เนื่องจากกระสุนปืนกับกระจกลามิเนตเกิดการปะทะกัน ส่งผลให้เกิดแรงกระทำซึ่งกันและกัน โดยแรงกระทำจากกระจกต่อกระสุนปืนทำให้หัวกระสุนสูญเสียพลังงานจลน์ เสียสภาพและเกิดการเปลี่ยนทิศทาง ในขณะเดียวกันแรงกระทำจากหัวกระสุนปืนก็ส่งผลให้เกิดรอยแตกบนแผ่นกระจก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ หัวกระสุนปืนและแผ่นกระจกเป็นไปตามมุมยิงที่ใช้ในการทดลอง

References

Turvey, B.E. and Crowder, S., 2017, Forensic Investigations: An Introduction, Academic Press.

Suksomsot, W., Guns and Tactics Magazine, Vol.4, Issue 48, pp. 108-110. (In Thai)

Yakumphai, K., 2015, Teaching Document for Forensic Science Myanmar Police Officers Short-Term Training Course, Teaching Topics on Firearm and Ammunition Verification, Case Study of Projectile Trajectory, Central Forensic Science Division. (In Thai)

Choksataporn, C., 2016, “Influence of Trajectories and Distances of Bullets on Fracture Patterns of Car Glasses,” Veridian E-journal Science and Technology Silpakorn University, 3 (5), pp. 274-288. (In Thai)

Harshey, A., Srivastava, A., Yadav, V.K., Nigam, K., Kumar, A. and Das, T., 2017, “Analysis of Glass Fracture Pattern Made by. 177 ″(4.5 mm) Caliber Air Rifle,” Egyptian Journal of Forensic Sciences, 7 (1), pp. 1-8.

Ballistics Calculators-Hornady/ [Online], Available: https://www.hornady.com. [5 May 2018]

Phimonsri, S., 2010, Study of Cracked Lateral Windshield Car Pattern from Gun Shooting, Master Thesis, Silpakorn University. (In Thai)

Gardner, R.M., 2012, Practical Crime Scene Processing and Investigation, CRC Press.

Moonviriyakit, N., 2014, A Study of Bullet Energy with a 9 mm. Luger (FMJ) and 11 mm. (FMJ) Shot on Car Body, Khon Kaen University. (In Thai)

Clark, B.L., 2011, Effect of Barrel Length on the Muzzle Velocity and Report from a Mosin-Nagant 7.62 x54R Rifle, Honors College, University of South Florida.

Daily Weather Characteristics [Online], Available: https://www.tmd.go.th. [5 May 2018]

Vinokurov, A., Giverts, P., Weiss, R., Levin, N. and Zeichner, A., 2014, “The Influence of a Reduced Powder Charge in a Cartridge on the Estimation of Shooting Distance,” AFTE Journal, 46 (3), pp. 205-210.

Haag, M.G. and Haag, L.C., 2011, Shooting Incident Reconstruction, Academic Press.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-09-30

How to Cite

หนูแป้น ม., สโมสรสุข ว., สโมสรสุข เ., & นคินทร์พงษ์ ธ. (2021). การวิเคราะห์รอยแตกของกระจกลามิเนตที่เกิดจากกระสุนปืนขนาด .22 Long Rifle ในมุมยิงที่ต่างกัน. Science and Engineering Connect, 44(3), 381–394. สืบค้น จาก https://ph04.tci-thaijo.org/index.php/SEC/article/view/10434